"ความสามัคคีปรองดอง เป็นกำลังอย่างสูงสุดของชนชาวไทยทุกหมู่เหล่า ความสามัคคีของคนในชาติ จะทำให้บ้านเมืองผ่านพ้นอุปสรรค และทำให้สังคมไทย ร่มเย็นเป็นสุข" พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ
สนใจลงโฆษณา ในพื้นที่ข้างบน ติดต่อ email : nana_sara1000@ymail.com
Home Lover’s Corner นานา สาระ๑๐๐๐ นานา สารพัด พระพุทธประวัติ ภาคพิเศษ
Travel Around the World Real Estate Buyer's Guide สุขภาพกาย สุขภาพใจ Pets & Animals
ปางพระพุทธรูปตามพุทธประวัติ Horoscope 12 ราศี พระพุทธศาสนา World of Beautiful Musics
พระประจำวันเกิด ความเชื่อและการบูชาให้ถูกโฉลก (วันพุธ พฤหัส ศุกร์ เสาร์)

พระประจำวันเกิด ความเชื่อและการบูชาให้ถูกโฉลก (วันพุธ พฤหัส ศุกร์ เสาร์)
พระประจำวันเกิด ความเชื่อและการบูชาให้ถูกโฉลก (วันอาทิตย์ จันทร์ อังคาร)

พระประจำวันพุธ : พระปางอุ้มบาตร (ทรงโคจรบิณฑบาต)



พุทธประวัติ ตอนทรงโคจรบิณฑบาต

เมื่อพระบรมศาสดาบันดาลให้ฝนโบกขรพรรษตกลงในท่ามกลางสมาคมพระญาติแล้ว และได้ตรัสเทศนามหาเวสสันดรชาดก แก่เหล่าศากยราชทั้งหลายจนจบ และพากันกลับไปโดยมิได้นิมนต์พระผู้มีพระภาคเจ้าให้รับภัตตาหาร ครั้นรุ่งเช้า พระบรมศาสดาจึงทรงบาตรพร้อมด้วย พระขีณาสพภิกษุสงฆ์ ๒ หมื่นเป็นบริวาร เสด็จเข้าไปบิณฑบาตในเมืองกบิลพัสดุ์ไปตามลำดับบ้านไม่มีเว้น ประชาราษฎร์ต่างก็ได้มีโอกาสชมพระบารมี และมีความปิติยินดี ประนมมือนมัสการ นับเป็นครั้งแรก ที่ชาวเมืองกบิลพัสดุ์ ได้เห็นพระบรมศาสดาทรง อุ้มบาตรโปรดประชาราษฎร์
ขณะที่พระเจ้าสุทโธทนะพุทธบิดาเมื่อเสด็จไปเฝ้าพระพุทธเจ้าที่นิโครธาราม พร้อมด้วยพระประยูรญาติ แล้วไม่ได้ทูลอาราธนาพระพุทธเจ้าเสด็จไปรับภัตตาหารบิณฑบาตในพระราชนิเวศน์ของพระองค์ แต่ครั้นทรงทราบจากที่พระนางพิมพาไปทูลว่า พระพุทธเจ้าพร้อมด้วยพระสงฆ์สาวกจำนวนมากมิได้เสด็จตรงไปยังพระราชนิเวศน์ แต่กลับเสด็จบิณฑบาตไปตามถนนหนทางในเมือง ก็ทรงเสียพระทัยเป็นอันมาก ทรงเสด็จลงจากพระราชนิเวศน์ บทจรโดยด่วนไปหยุดยืนอยู่ในที่เฉพาะพระพักตร์พระศาสดาแล้วกราบทูลว่า…"เหตุไฉนพระลูกเจ้าจึงมาเสด็จเที่ยวบิณฑบาตให้เป็นที่อัปยศ ผิดธรรมเนียมของกษัตริย์ ขัตติยวงศ์ของเรา ทำไมจึงไม่เสด็จไปเสวยที่พระราชนิเวศน์"

พระพุทธเจ้าตรัสบอกพุทธบิดาว่า ธรรมเนียมการเสด็จภิกขาจารเพื่อบิณฑบาตนี้ มิใช่ธรรมเนียมของขัตติยวงศ์ก็จริง แต่เป็นธรรมเนียมของพุทธวงศ์ (วงศ์ของพระพุทธเจ้า) พระพุทธเจ้าตรัสว่า ธรรมเนียมของผู้สละบ้านเรือนออกบวชเป็นพระพุทธเจ้าและของพระสงฆ์สาวกนั้น ต้องเที่ยวบิณฑบาตเลี้ยงชีพ การบิณฑบาตนั้น เป็นอาชีพอันสุจริตของนักบวชในพุทธวงศ์
พระพุทธเจ้าตรัสบอกพระเจ้าสุทโธทนะว่า พระองค์ทรงขาดจากขัตติยวงศ์แล้ว ขาดเมื่อตอนที่เสด็จออกบวชก็หาไม่ ขาดเมื่อคราวบำเพ็ญเพียรใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ก็หาไม่ แต่ขาดเมื่อคราวได้สำเร็จ คือ ภายหลังตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าแล้ว ตั้งแต่นั้นมาพระองค์ได้ชื่อว่าทรงตั้งอยู่ในพุทธวงศ์

พระพุทธเจ้าประทับยืนตรัสพระธรรมเทศนาแก่พระเจ้าสุทโธทนะ พอจบพระธรรมเทศนา พระเจ้าสุทโธทนะได้ทรงบรรลุโสดาปัตติผลในขณะที่ประทับยืนอยู่นั่นเอง ครั้นแล้วพระเจ้าสุทโธทนะจึงทรงรับบาตร แล้วอาราธนาพระพุทธเจ้าพร้อมทั้งหมู่อริยะสงฆ์บริษัทไปยังพระราชนิเวศน์เพื่อทรงรับภัตตาหาร.



พระพุทธรูปปางป่าเลไลย์



พุทธประวัติ ตอนป่าเลไลย์

ณ เมืองโกสัมพี มีพระภิกษุ ๒ ฝ่ายอยู่ในวิหารเดียวกันคือฝ่ายพระวินัยธร ที่ถือเคร่งครัดทางพระวินัย และฝ่ายพระธรรมธร ที่ถือการแสดงธรรมเป็นใหญ่ แต่ละฝ่ายก็มีลูกศิษย์เป็นบริวารมากมาย วันหนึ่งพระธรรมธรได้เข้าไปในห้องน้ำ ใช้น้ำแล้วเหลือไว้นิดหนึ่ง เมื่อพระวินัยธรเข้าไปเจอน้ำเหลือไว้ จึงได้ตำหนิพระธรรมธร ตัวพระธรรมธรเองก็ได้ยอมรับผิดต่อพฤติกรรมนั้น แต่พระวินัยธรกลับนำเรื่องเพียงเล็กน้อยนี้ไปพูดกันไป พูดกันมา จนเป็นสาเหตุให้ทั้งสองฝ่ายเกิดการทะเลาะวิวาทกันรุนแรง เพราะเหตุเพียงเล็กน้อยเอง เมื่อไม่สามารถจะระงับกันได้ พระพุทธเจ้าได้แสดงเหตุของการแตกแยก และคุณของความสามัคคี แต่ก็หาเชื่อต่อพระพุทธเจ้าไม่ ซ้ำยังแสดงคำพูดที่ไม่เหมาะสมว่า ขอให้พระพุทธเจ้าอยู่เฉยอย่ามายุ่ง พระพุทธองค์เห็นว่าไม่สามารถจะระงับได้ จึงส่งพระโมคคัลลานะ ไปช่วยระงับ แต่ทั้งสองฝ่ายก็ไม่ยอมเชื่อฟัง ทำให้พระพุทธองค์เกิดความเบื่อหน่ายระอาใจต่อเหตุการณ์นี้เป็นอย่างยิ่ง แม้ชาวบ้านเองก็แตกเป็น ๒ ฝ่ายตามพระที่ตนเองนับถือ ส่วนพุทธศาสนิกชนที่มีศีลก็ระอาพากันคว่ำบาตร ไม่ให้การบำรุงพระสงฆ์เหล่านั้น เป็นประวัติศาสตร์ที่น่าสะเทือนใจเป็นอย่างยิ่ง ฝ่ายพระพุทธเจ้าเมื่อเสด็จไปอยู่ ณ ป่าได้มีช้างปาริไลยกะและลิงคอยทำการอุปัฏฐาก มีความพระเกษมสำราญในการอยู่คนเดียว จากเหตุการณ์นี้ ถือว่าเป็นเหตุการณ์อันน่าสลดใจเป็นอย่างยิ่ง ถึงพฤติกรรมของพระ ๒ ฝ่ายในขณะนั้น ไม่เชื่อฟังแม้กระทั้งพระพุทธเจ้า พุทธศาสนิกชนจึงได้สร้างพระปางนี้ขึ้น เพื่อเป็นอนุสรณ์เตือนใจถึงการแตกสามัคคี การทะเลาะวิวาทกัน

ดวงชะตา
สิทธิการิยะ คนเกิดวันพุธแยกเป็นสองนัยคือ พุธกลางวันอย่างหนึ่ง
พุธกลางคืนอย่างหนึ่ง
คนเกิดวันพุธกลางวันนั้น ท่านว่าเป็นคนมีฝีปากกล้า ค้าขายคล่องแคล่ว เดินทางเก่ง ติดต่อสื่อสารกับผู้ใดมักได้ลาภเสมอ แต่มักทำคุณคนไม่ขึ้น ทำดีสิ่งใดมักไม่มีใครเห็น โบราณจารย์ท่านจึงได้ให้พระปางอุ้มบาตร เป็นพระประจำวันเกิด มีความหมาย ถึงการบิณฑบาต โปรดสัตว์ โดยมิได้เห็นแก่พระราชามหากษัตริย์หรือขอทานยาจก แม้ผู้ใดปรารถนาในกุศล ท่านโปรดเท่าเทียมกัน จึงเป็นอนุสติ แก่เจ้าชะตาผู้เกิดในวันพุธกลางวัน ว่าแม้ทำความดี มิมีได้เห็น ก็ไม่ต้องใส่ใจ

คนเกิดพุธกลางคืนนั้น ท่านว่า เป็นคนลึกลับมีความรู้ความสามารถในสิ่งที่คนทั่วไปไม่สามารถ มักจะมีลางสังหรณ์ทราบการณ์ล่วงหน้า แต่มักไม่ค่อยมีคนเข้าใจเวลามีปัญหา โบราณจารย์ท่านจึงให้พระปางป่าเลไลย์เป็นอนุสติ เนื่องจากพระปางนี้ เป็นปางที่พระพุทธเจ้าทรงเบื่อหน่ายพระสาวกที่ขัดแย้งกัน พระพุทธองค์จึงทรง เสด็จไปเพียงลำพัง ณ ป่าเลไลย์ มีช้างป่ามาถวายกล้วย และ ลิงมาถวายน้ำผึ้ง ฯลฯ

พระเครื่องที่เหมาะสำหรับผู้ที่เกิดวันพุธกลางวันนั้น เนื่องจากวันพุธเป็นฤกษ์แห่งการทำกิน พระเครื่องที่เหมาะสมนั้นควรเป็นพระประเภทลีลา หรือปางลีลาเสด็จกลับจากดาวดึงส์ มีความหมายแห่งความก้าวหน้า อาทิเช่น พระกำแพงเพชรลีลา พิมพ์ต่างๆ เช่น ลีลาเม็ดขนุน , ลีลาพลูจีบ , ลีลากลีบจำปา , ลีลาเมืองสวรรค์ ชัยนาท ลีลายี่สิบห้าพระพุทธศตวรรษ พุทธมลฑล ฯลฯ
สรุป สำหรับท่านที่เกิดวันพุธกลางวัน พระคู่กายคือ พระยืนปางลีลาต่างๆ (พระลีลายี่สิบห้าพระพุทธศตวรรษ จัดสร้างที่พุทธมลฑล สร้างขึ้นจำนวนมาก หาง่ายและไม่แพง 200-300 บาท ก็เช่าได้แล้ว แต่ลีลาอื่นๆนั้น เป็นหมื่นเป็นแสนทั้งสิ้น)

สำหรับผู้ที่เกิดวันพุธกลางคืนนั้น เนื่องจากลักษณะวันนั้น ผู้ที่เกิดวันพุธกลางคืนมักมีสัมผัสพิเศษ และมีลางสังหรณ์มากกว่าวันอื่น ดังนั้นนอกจากพระเครื่องพระพิมพ์ที่อาราธนาแล้วควรจะมีเครื่องราง เสริมดวงได้ป้องกันอาถรรพ์ต่างๆ ซึ่งคนที่เกิดในวันนี้ สัมผัสได้ง่าย ตัวอย่างเครื่องรางที่ควรพกพา เช่น ราหูอมจันทร์ หลวงพ่อน้อย วัดศรีษะทอง , ตะกรุดคณาจารย์ต่างๆ , ลูกอมผงพุทธคุณ ฯลฯ
สรุป สำหรับท่านที่เกิดวันพุธกลางคืน พระคู่กายคือ พวกเครื่องรางแบบต่างๆ (ที่จริงเครื่องรางต่างๆก็คือเครื่องรางจริงๆตามชื่อ ไม่ใช่พระเครื่อง หาไม่ยาก พระราหูก็ไม่ใช่พระเครื่องเช่นกัน อาจจะมีบ้างที่สร้างเป็นพระเกจิอาจารย์ด้านหน้า และพระราหูอยู่ด้านหลัง น่าจะเหมาะกว่าการใช้เครื่องรางของขลัง เพราะเราชาวพุทธ ย่อมพึ่งพระรัตนตรัยเป็นสรณะ )
ผู้ที่เกิดวันพุธ ควรใช้ของประดับตัวและบ้านเรือนเป็นสีเขียว หรือสีเขียวใบไม้ ส่วนสีรองๆ ลงมา คือ สีเหลือง สีเทา สีดอกรัก สีเมฆหมอก สีขาวนวล พึงเว้น สีม่วง

วันพุธ (กลางวัน)
คาถาสวดบูชา
สัพพาสีวะชาตีนัง ทิพพะมันตาทะคัง วิยะ ยันนาเสติ วิสังโฆรัง
เสสัญจาปิ ปะริสสะยัง อาณักเขตตัมหิ สัพพัตถะ สัพพะทา สัพพะปาณิณัง
สัพพะโสปิ นิวาเรติ ปะริตตันตัมภะณามะเส ฯ


อาหารที่ควรถวายพระประจำวันนี้
อาหารคาว : เน้นสีเขียว-หมู แกงเขียวหวานหมู หมูปิ้ง หมูทอด ผัดพริกหมู คะน้าน้ำมันหอย
อาหารหวาน : ขนมเปียกปูนเขียว น้ำฝรั่ง ชมพู่เขียว องุ่นเขียว มะม่วงเขียวเสวยฝรั่ง ชามะนาว
ของถวายพระ : สมุด กระดาษ ปากกา ดินสอ อุปกรณ์การเรียนการศึกษา
การทำทาน : คนพิการทางหู โรงพยาบาลโรคสมอง โรงเรียนสอนคนหูหนวก
การประพฤติตนของคนเกิดวันนี้ : อ่านหนังสือธรรมะ ร้องเพลง ฝึกสร้างความมั่นใจให้ตนเอง

วันพุธ (กลางคืน)
คาถาสวดบูชา
สัพพาสีวะชาตีนัง ทิพพะมันตาทะคัง วิยะ ยันนาเสติ
วิสังโฆรัง เสสัญจาปิ ปะริสสะยัง
อาณักเขตตัมหิ สัพพัตถะ สัพพะทา สัพพะปาณิณัง
สัพพะโสปิ นิวาเรติ ปะริตตันตัมภะณามะเส ฯ

อาหารที่ควรถวายพระประจำวันนี้
อาหารคาว : ของหมักดอง ผักกาดดองผัดไข่ อาหารกระป๋อง แกงใบยอ หมูยอ แหนม ไข่เยี่ยวม้า ห่อหมก
อาหารหวาน : ข้าวหมาก ขนมเปียกปูนดำ เฉาก๊วย ข้าวเหนียวดำ เม็ดมะม่วงหิมพานต์ ผลไม้หัวโตๆ ทุเรียน
ของถวายพระ : พัดลม เทปธรรมะ ยาแก้โรคลม ยาหอม
การทำทาน : มูลนิธิหรือหน่วยงานที่เกี่ยวกับยาเสพติด
การประพฤติตนของคนเกิดวันนี้ : เลิกบุหรี่ เลิกดื่มหรือลดปริมาณการดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด เลิกการพนัน เลิกทำตัวเหลวไหล เลิกเที่ยวกลางคืน เลิกยาเสพติดทุกชนิด
ผู้ที่เกิดวันราหู หรือวันพุธกลางคืน นี้ ควรใช้ของประดับตัวและบ้านเรือนเป็นสีเมฆหมอก สีเทา หรือสีดำหลัว ส่วนสีรองๆ ลงมา คือ สีแดง สีขาวนวล สีกรมท่า สีน้ำเงินแก่ พึงเว้นสีเหลือง


พระประจำวันพฤหัสบดี : พระปางสมาธิ



พุทธประวัติ
ในคืนวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๖ นั้นเอง เมื่อพระมหาบุรุษบรมโพธิสัตว์ ทรงกำจัดพญามาร และเสนามารให้ปราชัยด้วยพระบารมี ตั้งแต่เวลาสายัณห์มิทันพระอาทิตย์จะอัสดง ก็ทรงเบิกบานพระทัยได้ปีติเป็นกำลังภายใน สนับสนุนเพิ่มพูนแรงปฎิบัติภาวนาให้ยิ่งขึ้น พระมหาบุรุษประทับนั่งขัดสมาธิ ผินพระพักตร์ไปทางทิศตะวันออก ผินพระปฤษฎางค์ คือ หลัง ไปทางลำต้นพระศรีมหาโพธิ์ ทรงเจริญสมาธิมั่น เฉพาะอาณาปานสติกรรมฐาน พิจารณาวิธีหลุดพ้นจากทุกข์ โดยตั้งจาตุรงค์มหาปนิธาน ในพระหฤทัยว่า "ยังไม่บรรลุพระสัมมาสัมโพธิญาณ ตราบใด จักไม่เสด็จลุกขึ้นตราบนั้น แม้พระมังสะ (เนื้อ) และพระโลหิตจะแห้งเหือดไปเหลือแต่พระตจะ(หนัง) พระนหารุ(เอ็น) และพระอัฐ (กระดูก) ก็ตามที" ทรงเริ่มบำเพ็ญสมาธิให้เกิดในพระทัยด้วยวิธีที่เรียกว่าเข้าฌาน

พระมหาบุรุษทรงบรรลุญาณที่หนึ่ง (บุพเพนิวาสานุสติญาณ หมายถึง ความรู้แจ้งถึงอดีตชาติหนหลังทั้งของตนและคนอื่น) ในตอนปฐมยาม พอถึงมัชฌิมยาม (ประมาณเที่ยงคืน) ทรงบรรลุญาณที่สอง (จุตูปปาตญาณ หมายถึง ความรู้แจ้งถึงความจุติ คือ ดับและเกิดของสัตว์โลก ตลอดถึงความแตกต่างกันที่เรียกว่า-กรรม) พอถึงปัจฉิมยาม (หลังเที่ยงคืนล่วงแล้ว) ทรงบรรลุญาณที่สาม (อาสวักขยญาณ หมายถึง ความรู้แจ้งถึงความสิ้นไปของกิเลส และอริยสัจ ๔ คือ ความทุกข์ เหตุเกิดของความทุกข์ ความดับทุกข์ และวิธีดับทุกข์)

การได้บรรลุญาณทั้งสามของพระมหาบุรุษนั้นเรียกว่า ตรัสรู้ความเป็นพระพุทธเจ้า ซึ่งเกิดขึ้นในคืนวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๖ หลังจากนี้ พระนามว่า สิทธัตถะก็ดี พระโพธิสัตว์ก็ดี ที่เกิดใหม่ตอนก่อนตรัสรู้ว่าพระมหาบุรุษก็ดี ได้กลายเป็นพระนามในอดีตหนหลัง เพราะตั้งแต่นี้ต่อไป ทรงมีพระนามใหม่ว่า "อรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า" แปลว่า พระผู้ตรัสรู้ธรรมเครื่องหลุดพ้นจากกิเลสโดยชอบด้วยพระองค์เอง
ทรงเบิกบานพระหฤทัยอย่างสูงสุดในการตรัสรู้อย่างไม่เคยมีมาก่อน ถึงกับทรงเปล่งอุทานเย้ยตัณหา อันเป็นตัวการก่อให้เกิดสงสารวัฏฏทุกข์แก่พระองค์หลายเอนกชาติว่า "นับแต่ตถาคตท่องเที่ยวสืบเสาะหานายช่างเรือนคือตัณหา ตลอดชาติอันจะนับประมาณมิได้ ก็มิได้พบท่านเลย นับแต่นี้ไป ท่านจะทำเรือนให้ตถาคตไม่ได้อีกแล้ว กลอนเรือนเราก็ได้รื้อเสียแล้ว ช่อฟ้าเราก็ทำลายแล้ว จิตของเราปราศจากสังขารเครื่องปรุงแต่งแล้ว เราถึงความดับสิ้นไปแห่งตัณหาแล้ว" ในขณะนั้นมหาอัศจรรย์ก็บังเกิดขึ้น พื้นมหาปฐพีอันกว้างใหญ่ก็หวั่นไหว พฤกษาชาติทั้งหลายก็ผลิตดอกออกช่องามตระการตา เทพเจ้าทุกข์ชั้นฟ้าก็แซ่ซ้องสาธุการโปรยปรายบุปผามาลัยทำสักการะบูชา เปล่งวาจาว่าพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงอุบัติขึ้นแล้วในโลก ด้วยปีติยินดีเป็นเหตุอัศจรรย์ที่ไม่เคยมีมาก่อน เรื่องนี้จึงเป็นมูลเหตุให้มีการสร้างพระพุทธรูปปางตรัสรู้ เพื่อเป็นพุทธานุสสติ

ดวงชะตา
สิทธิการิยะ คนที่เกิดวันพฤหัสฯนั้นท่านว่า เป็นคนมีปัญญาชาญฉลาด มีความยุติธรรมเที่ยงตรง มีความรู้กว้างขวาง ชอบเรียนรู้ ใจเอื้อเฟื้อ แต่เป็นคนไม่ยอมคน ไม่ฉ้อฉลจนเป็นคนสังคมแคบ ด้วยความที่เป็นผู้มีความรู้มีปัญญา โบราณจารย์จึงให้พระปางสมาธิเป็นพระประจำวันเกิด เนื่องจากหมายถึงการเจริญสมาธิอันหมายถึงปัญญา

พระเครื่องที่เหมาะสมกับผู้ที่เกิดวันพฤหัสฯนั้น เนื่องจากเป็นผู้ที่มีปัญญา มีความรู้กว้างขวาง พระพิมพ์ที่ช่วยเสริมดวงวาสนานั้น โบราณท่านว่า พระปางเปิดโลก ท่านถือว่าเป็นพระแห่งปัญญา เหมาะสำหรับผู้ที่เกิดวันนี้เป็นที่สุด พระพิมพ์นี้ ที่มีชื่อเสียงอาทิเช่น กรุเตาเรียง จ.สุโขทัย พระร่วงเปิดโลกพิมพ์เม็ดทองหลาง จ.กำแพงเพชร ฯลฯ
สรุป สำหรับท่านที่เกิดวันพฤหัสฯ พระคู่กายคือพระยืนปางเปิดโลกเป็นดีที่สุด (เป็นพิมพ์ที่มีน้อย หายากพอสมควร แต่ถ้าไม่ใช่พิมพ์ที่นิยม ราคาเช่าหาจะไม่แพงนัก)

คาถาสวดบูชา
ปูเรนตัมโพธิสัมภาเร นิพพัตตัง โมระโยนิยัง เยนะ สังวิหิตารักขัง มหาสัตตัง
วเนจรา จิรัสสัง วายะมันตาปิ เนวะ สักขิงสุ คัณหิตุง ฯ
อาหารที่ควรถวายพระประจำวันนี้
อาหารคาว : ประเภทเถา แกงเลียง บวบผัดไข่ น้ำเต้า
อาหารหวาน : แตงโม แตงไทย น้ำสมุนไพร ส้ม สาลี่ น้ำมะตูม น้ำว่านหางจระเข้
ของถวายพระ : สบง จีวร หนังสือธรรมะ ตู้ยา โต๊ะหมู่บูชา
การทำทาน : โรงพยาบาลสงฆ์ บริจาคข้าวสาร เสื้อผ้า ผ้าห่มกันหนาว
การประพฤติตนของคนเกิดวันนี้ : นั่งสมาธิ สวดมนต์ ถือศีล 5 อย่าซื่อจนเกินไป
ผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี พึงใช้เครื่องประดับและบ้านเรือนเป็นสีเหลืองหรือสีไพล ส่วนสีรองลงมาคือ สีน้ำเงิน สีแดง สีเขียว พึงเว้น สีดำ สรกรมท่า และสีน้ำเงินแก่



พระประจำวันศุกร์ : พระปางรำพึง



พุทธประวัติ
ในสัปดาห์ที่ ๕ เมื่อกลับมาประทับโคนต้นไทร ทรงท้อพระทัยในอันโปรดสัตว์
สหัมบดีพรหม ระหว่างที่ประทับอยู่ ณ ที่นี่ พระพุทธเจ้าทรงพิจารณาถึงธรรมที่พระองค์ได้ตรัสรู้มา ทรงเห็นว่าเป็นธรรมที่มีความหมายสุขุมละเอียด ก็ทรงบังเกิดความท้อพระทัยว่า จะมีใครสักกี่คนที่จะฟังธรรมของพระองค์รู้เรื่อง พระทัยหนึ่งจึงเกิดความมักน้อยว่าจะไม่แสดงธรรมเพื่อโปรดใครเลย ท้าวสหัมบดีพรหมจึงตกพระทัยเป็นอย่างยิ่ง ถึงกับทรงเปล่งศัพท์สำเนียงอันดังถึงสามครั้งว่า "โลกจะฉิบหายในครั้งนี้" เสียงนั้นก็ดังแผ่ไปทั่วหมื่นโลกธาตุ ท้าวสหัมบดีพรหมจึงพร้อมด้วยเทวาคณานิกรลงมากราบทูลอาราธนาพระพุทธเจ้าให้ทรงแสดงธรรม ด้วยคำอาราธนาว่า "ท้าวสหัมบดีพรหม ประณมกรกราบทูลอาราธนาพระพุทธเจ้าผู้ทรงคุณอันประเสริฐว่า สัตว์ในโลกนี้ ที่มีกิเลสบางเบาพอที่จะฟังธรรมเข้าใจนั้นมีอยู่ ขอพระองค์ได้โปรดแสดงธรรมช่วยเหลือชาวโลกเทอญ. (ต่อมาภาษาบาลีที่เป็นฉันท์บทนี้ ได้กลายเป็นสำหรับอาราธนาพระสงฆ์ในเมืองไทยให้แสดงธรรมมาจนทุกวันนี้.)

ถึงพระพุทธองค์จะทรงท้อพระทัยว่าจะไม่แสดงธรรม แต่อีกพระทัยหนึ่งซึ่งมีอำนาจเหนือกว่า คือ พระมหากรุณาธิคุณนี่เอง ที่เป็นเหตุให้พระพุทธเจ้าตัดสินพระทัยว่าจะทรงแสดงธรรม หลังจากตัดสินพระทัยแล้ว จึงทรงพิจารณาดูอัธยาศัยของคนในโลก แล้วทรงเห็นความแตกต่างแห่งระดับสติปัญญาของคนถึง ๔ ระดับ หรือ ๔ จำพวก
จำพวกที่หนึ่ง ฉลาดมาก เพียงแต่ได้ฟังหัวข้อธรรมที่ยกขึ้นก็เข้าใจทันที
จำพวกที่สอง ฉลาดพอควร ต่อเมื่อฟังคำอธิบายอีกชั้นหนึ่งจึงเข้าใจ
จำพวกที่สาม ฉลาดปานกลาง ที่เรียกว่าเวไนยสัตว์ ต้องใช้เวลาอบรมบ่มสติปัญญาพอควร จึงจะเข้าใจ
จำพวกที่สี่ เรียกว่า "ปทปรมะ" ตรงกับภาษาไทยว่า โง่ทึบ ตรงกับคำอังกฤษว่า Idiot เป็นคนที่ใครโปรดไม่ได้ เรียกอีกสำนวนหนึ่งว่า ผู้ที่พระพุทธเจ้าทรงทอดทิ้ง.
จำพวกที่หนึ่ง เปรียบเหมือนดอกบัวเปี่ยมน้ำ พอได้รับแสงอาทิตย์ก็บาน จำพวกที่สอง เหมือนดอกบัวใต้น้ำที่จะโผล่พ้นน้ำ และที่จะบานในวันรุ่งขึ้น จำพวกที่สามเหมือนดอกบัวที่อยู่ใต้น้ำลึกลงไปหน่อย ซึ่งจะแก่กล้าขึ้นมาบานในวันต่อ ๆ ไป และจำพวกที่สี่ เหมือนดอกบัวที่อยู่ใต้น้ำลึกลงไปมาก ถึงขนาดไม่อาจขึ้นมาบานได้ ต้องตกเป็นภักษาของปลาและเต่าเสียก่อน ระดับแตกต่างแห่งสติปัญญาของคนในโลกที่พระพุทธเจ้าทรงเห็นดังกล่าวนี้ คือ สิ่งที่ภาษาจิตวิทยาทุกวันนี้ เรียกกันว่า ไอ.คิว. ของคนนั่นเอง

ดวงชะตา
สิทธิการิยะ คนที่เกิดวันศุกร์นั้นท่านว่าเป็นคนราคะจริตสูง เป็นคนหลงในสิ่งสวยงามชอบของสวยของงาม ทำงานประณีต โบราณจารย์ ท่านจึงให้พระปางรำพึง เป็นอนุสติเตือน ปางรำพึงนั้น ตามพุทธประวัติเป็นปางที่พระพุทธองค์ พิจารณาธรรมสังเวช หมายถึง อสุภกรรมฐาน ด้วยเหตุนี้ ผู้ที่เกิดวันศุกร์จึงควรมีพระปางรำพึงไว้ เป็นอนุสติไว้ไม่ให้หลง

พระเครื่องที่เหมาะสมกับผู้ที่เกิดวันศุกร์นั้น จึงควรเป็นพระปิตตาภควัมปติเพื่อเป็นลักษณะอณุสติเตือนใจ มิให้หลงในสิ่งต่างๆ และเสริมดวงโชคลาภวาสนา
จะไหลมาอย่างที่คาดไม่ถึง พระพิมพ์ปิตตาภควัมปติที่มีชื่อเสียงอาทิเช่น
พระภควัมปติ ของหลวงพ่อแก้ว จ.ชลบุรี พระภควัมปติของหลวงปู่เอี่ยม
วัดสะพานสูง จ.นนทบุรี ฯลฯ
สรุป สำหรับท่านที่เกิดวันศุกร์ พระคู่กาย ควรจะเป็นพระปิตตา มหาอุตม์ แบบต่างๆ (พระปิดตา มีสร้างกันมาตลอดต่อเนื่อง โดยพระเกจิอาจารย์ต่างๆ มากมาย หาเช่าบูชาได้ง่าย และไม่จำเป็นที่จะต้องเอาระดับที่เซียนพระเขาสะสมกัน)

คาถาสวดบูชา
อัปปะสันเนหิ นาถัสสะ สาสะเน สาธุ สัมมะเต อะมะนุสเนหิ จัณเฑหิ
สะทา กิพพิ สะการิภิ ปะริสานัญจะ ตัสสันนัง มะหิงสายะ จะ คุตติยา
ยันเทเสหิ มะหาวีโร ปะริตตันตัมภะณามะ เห ฯ
อาหารที่ควรถวายพระประจำวันนี้
อาหารคาว : ประเภทของหอม หวาน ข้าวหอมมะลิ ผักกาดหอม ไข่เจียวหอมใหญ่ ยำหัวหอม
อาหารหวาน : ขนมหวาน หอมทุกชนิด น้ำเก๊กฮวย ผลไม้ที่มีกลิ่นหอม กล้วยหอม เค้ก
ของถวายพระ : นาฬิกา โต๊ะรับแขก ดอกไม้สวยหอม ระฆัง ย่าม
การทำทาน : เด็กด้อยโอกาส ให้เงิน ให้เสื้อผ้า อาหารที่หอมหวานชวนกิน เช่น ไอศกรีม
การประพฤติตนของคนเกิดวันนี้ : ทำตัวให้สดชื่นแจ่มใส บำรุง ดูแลตัวเองให้ดูดีอยู่ตลอด จัดสิ่งแวดล้อมให้น่าอยู่ สวยงาม เลิกการฟุ่มเฟือย
ผู้ที่เกิดวันศุกร์ พึงใช้เครื่องประดับและบ้านเรือนเป็นสีฟ้าหรือสีน้ำเงินแก่ ส่วนสีรองลงมาคือ สีขาวนวล สีม่วง สีเหลือง พึงเว้นสีเทา สีเมฆหมอก สีดอกรัก



พระประจำวันเสาร์ : พระปางนาคปรก



พุทธประวัติ
ภายหลังที่ตรัสรู้พระอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณแล้ว ๔๒ วัน พระพุทธเจ้าได้เสด็จไปประทับบำเพ็ญสมาบัติ เสวยวิมุติสุขซึ่งเกิดแต่ความพ้นจากกิเลสอาสวะอยู่ ณ ร่มไม้จิก ( มุจลินทพฤกษ์ ) ต้นหนึ่ง อันอยู่ทางทิศตะวันออกของพระมหาโพธิ์พฤกษ์ เป็นเวลา ๗ วัน มีพระยานาคตนหนึ่งชื่อ มุจลินท์นาคราชอาศัยอยู่ในสระใหญ่ใกล้ๆที่นั้น ขึ้นมาแสดงอิทธิฤทธิ์ แผ่พังพาน และวงขนดกายเป็น ๗ รอบ ล้อมพระพุทธเจ้าไม่ให้ถูกต้องลมและฝน จนกระทั่งฝนหาย จึงแปลงร่างเป็นมนุษย์เข้าไปเฝ้าพระพุทธเจ้า ต่อจากนั้นพระพุทธองค์ ก็ออกจาก สมาบัติเสด็จดำเนินไปสู่ร่มไม้เกต(ราชายตนะพฤกษ์) อันอยู่ทางทิศใต้ของไม้จิกต้นนั้น
พระพุทธรูปนางปรกที่พุทธศาสนิกชนสร้างขึ้น ก็เป็นนิมิตหมายถึงเหตุการณ์ที่เกิดกับพระพุทธเจ้าในปางหรือในตอนนี้ เป็นพระพุทธรูปที่เชื่อถือกันว่าศักดิ์สิทธิ์ทางเมตตา เพราะเป็นรูปหรือภาพที่สอนคนทางอ้อมให้เห็นอานิสงส์หรือผลดีของเมตตา เพราะเเม้แต่พญางูใหญ่สระน้ำก็ยังขึ้นมาจากสระเข้าไปถวายความอารักขาแก่พระพุทธเจ้า ทั้งนี้ด้วยพลานุภาพแห่งพระมหากรุณาของพระพุทธองค์

ดวงชะตา
สิทธิการิยะ ท่านที่เกิดวันเสาร์ ท่านว่าเป็นคนจริงจังกับชีวิต พูดจริงทำจริง
ภายนอกดูดุดันแต่ภายในใจเป็นคนใจอ่อน แต่เป็นคนที่หาคนทำร้ายได้ยากยิ่ง
เนื่องจากตำแหน่งลักขณาดาวนี้ดวงแข็ง โบราณจารย์ถือว่า คนเกิดวันเสาร์นั้นดวงแข็งไม่มีผู้ใดทำร้ายได้ จึงถือเอาพระปางนาคปรกเป็นพระประจำวันเกิด เนื่องจากหมายถึง พระยามุจลินทร์นาคราช มาแผ่พังพาฬป้องกันภยันตรายต่างๆแก่พระพุทธองค์

พระเครื่องที่เหมาะสมสำหรับผู้ที่เกิดในวันเสาร์ เนื่องจากดาวเสาร์ เป็นคนจริงจังเคร่งเครียด พระพิมพ์ที่เสริมดวงของผู้ที่เกิดวันนี้นั้นควรจะเป็น พระที่ทำจากว่านอันเป็นคุณลักษณะที่เย็นและบริสุทธิ์จากธรรมชาติ อาทิเช่น พระว่านหลวงปู่ทวด วัดช้างไห้ ปัตตานี , พระกำแพงว่านหน้ากอง หน้าเงิน พระว่านจำปาศักดิ์ ประเทศลาว , พระมหาว่านขาว มหาว่านดำ สำนักเขาฮ้อ พัทลุง ฯลฯ
สรุป สำหรับท่านที่เกิดวันเสาร์ พระคู่กายควรเป็น พระเนื้อว่าน เป็นดีที่สุด

คาถาสวดบูชา
ยะโตหัง ภะคินิ อะริยายะ ชาติยา ชาโต นาภิชานามิ สัญจิจจะ ปาณัง ชีวิตา
โวโรเปตา เตน สัจเจนะ โสตถิ เต โหตุ คัพภัสสะ ฯ
อาหารที่ควรถวายพระประจำวันนี้
อาหารคาว : ประเภทของขม ของดำมะระยัดไส้ สะเดาน้ำปลาหวาน น้ำพริกปลาทู มะเขือยาว
อาหารหวาน : ลูกตาลเชื่อม กาแฟ โอเลี้ยง
ของถวายพระ : ร่มสีดำ กระเบื้องมุงหลังคา ไม้กวาด สร้างห้องน้ำถวายวัด
การทำทาน : โรงพยาบาลโรคจิต โรงพยาบาลโรคประสาท
การประพฤติตนของคนเกิดวันนี้ : กวาดลานวัด ล้างห้องน้ำวัด ไม่เครียด มองโลกในแง่ดี ขยะในบ้านยกทิ้งทุกวัน อย่าหมักหมม
ผู้ที่เกิดวันเสาร์ พึงใช้เครื่องประดับและบ้านเรือนเป็นสีดำหลัว หรือสีม่วง ส่วนสีรองๆ ลงมา คือ สีเทา สีเมฆหมอก สีดอกรัก สีน้ำเงิน พึงเว้นสีเขียว



พระประจำวันพระเกตุเสวยอายุ



“ปางสมาธิเพชร”
พระพุทธรูปอยู่ในพระอิริยาบถประทับ (นั่ง) ขัดสมาธิไขว้พระชงฆ์ (แข้ง) หงายฝ่าพระบาททั้งสองข้าง พระหัตถ์วางซ้อนกันบนพระเพลา (ตัก) พระหัตถ์ขวาซ้อนทับพระหัตถ์ซ้าย

ประวัติย่อ…
หลังจากที่พระมหาบุรุษรับหญ้าคาจากนายโสตถิยะแล้ว ทรงปูลาดที่โคนต้นโพธิ์แล้วประทับนั่งพร้อมอธิฐานความเพียรครั้งสำคัญว่า “หากไม่ตรัสรู้ก็ไม่ลุกจากที่นี่ ไม่ว่าเลือดและเนื้อในกายจะเหี่ยวแห้งจนถึงสิ้นชีวิตก็ตาม” ด้วยพระทัยที่แน่วแน่และมั่นคงพระองค์จึงชนะอุปสรรค และตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าในเวลาต่อมา

บทสวดมนต์บูชาเมื่อพระเกตุเสวยอายุ..
ชะยันโต โพธิยา มูเล สักยานัง นันทิวัฑฒะโน
เอวัง ตวัง วิชะโย โหหิ ชะยัสสุ ชะยะมังคะเล
อะปะราชิตะปัลลังเก สีเส ปะฐะวิโปกขะเร
อะภิเสเก สัพพะพุทธานัง อัคคัปปัตโต ปะโมทะติ
สุนักขัตตัง สุมังคะลัง สุปะภาตัง สุหุฏฐิตัง
สุกขะโณ สุมุตหุตโต จะ สุยิฏฐัง พรัหมะจาริสุ
ปะทักขิณัง มะโนกัมมัง วาจากัมมัง ปะทักขิณัง
ปะทักขิณัง มะโนกัมมัง ปะณิธี เต ปะทักขิณา
ปะทักขิณานิ กัตวานะ ละภันตัตเถ ปะทักขิเณ


ปล. ตอนนี้ผมเขียนบล็อกมาได้เกือบ 200 เรื่องแล้ว ล้วนเป็นสาระน่ารู้ต่างๆ ท่านที่เข้ามาชมบล็อกใหม่ ผมได้จัดทำเป็นสารบัญ แบบหนังสือให้ดูหัวเรื่องได้ง่ายที่ group : Blog Of All You Needs To Know เปิดทีเดียวเลือกดูเนื้อเรื่องได้ครบครับ จะได้ไม่เสียเวลาคลิกที่ group blog เข้าๆ-ออกๆ


ข้อมูลบางส่วนจาก
//www.culture.go.th/
//www.banphra.com/dailybuddha/



Create Date : 02 ธันวาคม 2550
Last Update : 14 พฤษภาคม 2551 23:03:45 น. 0 comments
Counter : 7929 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

travelaround
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 164 คน [?]





ยินดีต้อนรับทุกท่านที่แวะเข้ามาชม blog มีข้อคิดเห็น เชิญ comment มาได้นะครับ ถ้าตอบได้ จะตอบให้ทันทีครับ แต่ถ้าไม่ทราบ ต้องขอเวลา จะค้นคว้ามาให้อ่านกัน ท่านที่จะถามคำถาม หรือติดต่อเรื่องบทความ ได้ทาง Email :- d_sign_place@yahoo.com ครับ


เรื่องต่างๆที่ผมได้เขียนหรือรวบรวม เรียบเรียงมานี้ ยินดีให้ทุกท่านได้อ่านเป็นวิทยาทานและเพื่อการศึกษา ถ้าจะนำไปโพสต่อใน website สาธารณะ หรือ website อื่นใดที่ไม่ใช่ทางพาณิชย์ กรุณาระบุที่มา คือ https://www.travelaround.bloggang.com และนามปากกาผู้เขียนคือ TraveLArounD ด้วย

แต่ขอสงวนสิทธิ์สำหรับการนำไปใช้ ในเชิงพาณิชย์ หรือโดยไม่ได้รับอนุญาตอย่างถูกต้อง จะถูกดำเนินคดี ตามกฏหมายลิขสิทธิ์

ส่วนบทความหรือภาพถ่ายใดๆ ที่ได้นำมาจาก website อื่น เพื่อเป็นข้อมูลประกอบเรื่องนั้นๆ เป็นการถ่ายทอดจากวิจารณญาณแล้วว่า มีความถูกต้องเป็นจริง มากที่สุด และได้นำมาจาก website ที่เป็นสาธารณะ ถ้าเรื่องราวหรือภาพของท่านที่ได้นำมาถ่ายทอดนี้ ไปละเมิดลิขสิทธิ์ของท่าน กรุณาแจ้งมาทาง email :– nana_sara1000@ymail.com ผมจะทำการลบข้อมูลหรือภาพที่ละเมิดลิขสิทธิ์ดังกล่าว ออกทันที

Acknowledges that I try to write or report accurately but postings may contain fact , speculation or rumor. I find images from the Web that are believed to belong in the public domain. If any stories or images that appear on the site are in violation of copyright law, please email to :- nana_sara1000@ymail.com and I will remove the offending information as soon as possible.


Website counter
: Users Online









ที่ดินเชียงใหม่ ทางไปแม่ริม ใกล้ศาลากลาง และสนามกีฬา 700 ปี ติดน้ำปิง ในหมู่บ้านเพชรริมปิง พื้นที่ 667 ตารางวา @ 14,000.- บาท สภาพแวดล้อมดี สนใจติดต่อ โทร. 0859559950



DESIGN PLACE CO.,LTD. รับออกแบบ และตกแต่งภายใน บ้านพักอาศัย ในแบบไทย และไทยร่วมสมัย



มรดก ฉบับที่ 1

มรดก ฉบับที่ 2

มรดก ฉบับที่ 3

มรดก ฉบับที่ 4

มรดก ฉบับที่ 5

มรดก ฉบับที่ 6

มรดก ฉบับที่ 7

ช่วยสนับสนุนการจัดทำ BLOG ด้วยการซื้อหนังสือ "มรดก" 1ชุด 7เล่ม (หนังสือเก่า) ในราคาชุดละ 700 บาท (รวมค่าส่งทางไปรษณีย์)

สนใจสั่งซื้อทาง E-mail :- nana_sara1000@ymail.com



New Comments
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add travelaround's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.